ปัจจัยสู่การเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวระดับโลก
บทความนี้เป็นการตอบคำถามในกลุ่ม TANT (Tourism Academic Network of Thailand) ใน Facebook
คำถามประมาณว่า มีปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้กิจกรรมท่องเที่ยวระดับท้องถิ่นก้าวสู่ระดับโลกได้
ตำตอบของผมมีดังนี้ครับ
ผมคิดว่ากิจกรรมระดับท้องถิ่น หรือ ระดับโลก นั้นมีหลายมุมมองนะครับ
หากมองด้านการตลาด ซึ่งการเป็นงานระดับท้องถิ่น หรือระดับโลก ก็น่าจะวัดจาก ผู้เข้าร่วมงานว่าเป็นคนท้องถิ่น หรือ จากทั่วโลก ซึ่งปัจจัยแรกๆ ก็น่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ โดยการประชาสัมพันธ์ที่ดีนั้นจะต้องสามารถสื่อสารภาพลักษณ์ให้ตรงกับความต้องการและ มุมมองของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม เช่น จากงานวิจัยของผมก็พบว่าแม้แต่ ชาวอังกฤษ กับ ชาวออสเตรเลียนั้น ก็จะมีการมองภาพลักษณ์ของไทยที่ต่างกัน โดยอังกฤษจะเน้น ธรรมชาติ อากาศ ส่วน ออสเตรเลียก็จะเน้นการจัดการและความเป็นไทยมากกว่าอย่างไรก็ตามนอกจากการประชาสัมพันธ์แล้ว การที่จะทำให้กิจกรรมท่องเที่ยวนั้นๆ อยู่ในระดับโลกนั้นจะต้องมีสองปัจจัยนี้เป็นอย่างน้อย
1. ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ คุ้มทุนด้วยตัวงานเอง ไม่ต้องอาศัยเงินสนับสนุนจากภาครัฐเป็นหลัก รวมทั้งระบบโลจิสติกส์การท่องเที่ยวที่ดี คือ นักท่องเที่ยวหรือผู้เข้าเยี่ยมชมได้รับในสิ่งที่ต้องการ ตรงตามที่งานได้บอกไว้ เช่น ตรงเวลา ตรงตามคุณภาพ และมีราคาที่เหมาะสม ซึ่ง ไม่จำเป็นต้อง ถูกที่สุด หรือ เร็วที่สุด แต่เป็นไปตามที่นักท่องเที่ยวรับได้ครับ2. การมีส่วนร่วม หรือ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
การที่จะผลักดันในกิจกรรมท้องถิ่นไปสู่ระดับโลกนั้น จะมีผลกระทบหลายๆ ด้านที่ตามมา เช่น ทางเศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม
โดยทางเศรษฐกิจนั้น จะต้องทำให้ผลประโยชน์กระจายไปให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกันให้ได้มากที่สุด และในส่วนของสิ่งแวดล้อมนั้นจะต้องทำความเข้าใจกับชุมชน และประเมินผลกระทบไม่ให้คนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับทราบผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างถูกต้องและโปร่งใส
ตัวอย่างเช่น งานพืชสวนโลกที่เชียงใหม่ นั้น ผู้ประกอบการเดินรถและโรงแรมได้ประโยชน์มาก แต่ ชาวเชียงใหม่ ต้องประสบกับปัญหา การจราจรติดขัด
ไม่รู้ว่าหากมีการสำรวจว่าชาวเชียงใหม่อยากใหมีงานพืชสวนโลกทุกปีหรือเปล่า คำตอบจะออกมาอย่างไร
เมื่อเทียบกับงานระดับโลกอย่าง โอลิมปิค ที่ลอนดอน ปีนี้
แน่นอนว่าชาวลอนดอนและเมืองใหญ่ๆ นั้นจะต้องได้รับผลกระทบแน่นอนเพราะจะมีคนมาเที่ยวมากที่สุด สนามบินฮีทโทรว์ก็จะมีผู้โดยสารมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น การจราจรจะต้องติดขัดกว่าเดิม ที่ก็ติดว่าอยู่แล้วแน่นอน
นอกเหนือไปจากนั้น ทางคณะจัดงานก็จะต้อง ทำให้ VIP และนักกีฬาเดินทางได้อย่างสะดวกและเดินทางไปยังสนามแข่งได้ทันเวลา โดยมีการกำหนด ORN (Olympic Route Network) เป็นเส้นทางพิเศษ ซึ่งก็จะทำให้การจราจรติดขัดไปอีก
ทางออกคือ tfl (transport for london) หรือสำนักงานขนส่งลอนดอนได้มีการกำหนดแผนงาน เส่นทาง ORN ซึ่งเปลี่ยนแปลงทุกวัน มีการพยากรณ์ผลกระทบด้านการจราจรรายวัน และเผยแพร่ให้สาธารณะชนได้ทราบ
http://www.tfl.gov.uk/corporate/projectsandschemes/18196.aspx
และได้มีมาตรการต่างที่จะลดผลกระทบทั้งสองฝ่ายเช่น กำหนดวันหยุดให้โรงเรียน
สำหรับ ภาคเอกชนที่จะต้องขนส่งสินค้านั้นก้จะได้รับผลกระทบเช่นกัน
ทาง tfl ็ได้มีการวางแผนร่วมกันเพื่อกำหนดเส้นทางและเวลาที่เหมาะสมในการเคลื่อนย้ายสินค้า และ สร้างจุดเคลื่อนย้ายและกระจายสินค้าตามจุดที่สำคัญต่างๆ
อย่างไรก็ตามพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้ไปสู่ระดับโลกนั้น
โดยอาจจะเป็นระดับโลกแบบไทยๆ ก็ได้นะครับ เพราะจากงานวิจัย นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบในความเป็นไทย
เราอาจจะไม่ตรงเวลามาก 100% สำหรับการท่องเที่ยวแบบสบายๆ แต่ก็ต้องบอกให้นักท่องเที่ยวทราบในเรื่องนี้ก่อน แต่หากเป็นการท่องเที่ยวเที่ยวประเภท MICE ที่นักท่องเที่ยวเป็นผู้บริหารระดับสูงนั้น เราก็จะต้องพัฒนาระบบให้การเดินทางนั้นมีความรวดเร็วและตรงต่อเวลา เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยว มาตรฐานไทยระดับโลก – “Thailand – A World Class Land of Smile”