ปลูกป่า vs รักษ์ป่า ควรทำอะไรก่อน?

จากปมดราม่า ผู้ว่าฯ น่านออกมาท้าสาธารณธให้มาปลูกป่า 5 แสนไร่
และได้รับการตอบรับจากเซเลบ อย่างโจอี้บอย และ สุหฤท ว่าจะบริจาคต้นกล้าและไปปลูกป่ากับผู้ว่าฯ ด้วย … ทำให้ได้รับการชื่นชมจากคนในสังคมไทยมากว่า เป็นการแก้ปัญหาเชิงบวก …



ที่มา: Mthai
ผมฟังเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกเห็นใจท่านผู้ว่าน่าน ไม่น้อยครับ เพราะที่น่านคืนพื้นที่หลักที่ข้าวโพดบุกไปทำลายป่าอย่างมาก และ ท่านคงมีความกดดันสูง
และผมก็ชื่นชมพี่โจ้และคุณสุหฤทมาก ว่า คนกทม เค้ายังสนใจป่าไม้ปัญหาสิ่งแวดล้อม จนอยากมาช่วยแก้ปัญหากัน
แต่สิ่งที่ผมกลัวคือความพยายามฉวยโอกาสนี้ของ เอกชนที่สังคมชี้ว่าต้องรับผิดชอบ
หยุดการสนับสนุนการบุกรุกป่าแล้วแก้ปัญหาการเผ่าไร่ข้าวโพด อาจจะอาศัยจุดนี้มาร่วมปลูกต้นไม้และ จบการทำงาน CSR ในปีนี้ และวนลูปไปอีกแบบเดิมที่ทำมากว่า 10 ปี

ผมขอยกนิทานเซนที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่ง คิดว่าได้อานจากหนังสือ The Novice ของท่าน ติช นัท ฮัน พระเซนชาวเวียดนาม ที่ลี้ภัยไปฝรั่งเศส
นิทานเรื่องนี้สรุปสั้น ๆ ว่า
พระเซนอาศัยในวัดเล็ก ๆ กลางป่า
วันหนึ่งท่านธุดงออกไปแต่เช้า
พอตกเย็นท่านกลับมาที่วัดพบว่า
ลมแรงมากและท่านเปิดหน้าต่างไว้ทำให้คัมภีร์และเอกสารสำคัญต่าง ๆ ปลิวว่อน ฟุ้งกระจายในกุฏิท่านหมด
ลูกศิษย์ท่านรีบเก็บของให้เข้าที่เพราะเห็นว่าสำคัญจึงรีบฟื้นฟู
แต่ลมยังพัดแรงอยู่ของต่าง ๆ เก็บยังไงก็ไม่เรียบร้อย
พระเซนจึงสอนลูกศิษย์ท่านว่า
เจ้าแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
เจ้าเก็บของไปเท่าไหร่ ไม่นานก็กระจายเหมือนเดิม เพราะยังมีลมพัด
ลูกศิษย์ตอบว่าจะให้ข้าสั่งให้พายุหยุดได้อย่างไร ข้าเป็นเพียงประชาชนคนเดียวตัวเล็ก ๆ
อาจารย์เซนจึงตอบไปว่า
จริงอยู่ที่เราหยุดลมไม่ได้
แต่เราหยุดผลกระทบได้ คือ
ปิดประตูหน้าต่างเสียให้ครบและสนิท
เมื่อเจ้าหยุดที่มาของปัญหาแล้ว
จึงมาฟื้นฟู บรรเทาผลกระทบ โดยการเก็บของที่กระตัดกระจายเสีย
แล้ว ของที่จัดก็จะไม่กระจายอีก
ฉันใด
ป่าที่ถูกทำลาย และ มีการเผา จนคนเชียงใหม่แทบหายใจไม่ได้นั้น
ต้องหยุดสิ่งนั้นก่อน แล้วจึงมาช่วยกันฟื้นฟู การปลูกป่าใหม่สักวันก็จะถูกทำลายไปเหมือนเดิมการแก้ปัญหาก็จะไม่มีทางสิ้นสุดและไม่ยั่งยืน
ดังนั้นเราต้องเรียงลำดับความสำคัญดี ๆ ว่าอะไรควรทำก่อนหลังครับ
นับถือและชื่นชมน้ำใจทุกท่านที่หวังดี
แต่กลัวจะตกเป็นเหยื่อของความพยายามเบี่ยงประเด็นของบริษัทที่ต้องรับผิดชอบและพยายามเอาตัวรอดโดยการแก้ปัญหาแบบฉาบฉวยเหมือนที่ทำกับพวกเราชาวเชียงใหม่มาตลอด 10 ปีครับ
วันนี้ 17:00 น. ผมจะไปร่วม #byeByeSmog ด้วยอีกคนครับ
วันนี้คือวันแห่งประวัติศาสตร์ของชาวเชียงใหม่ จะสำคัญที่สุดในการฉลอง 720 ปี พญามังรายคือความหวังเดดียวของเราแล้วครับ
ปล. ถ้าพี่โจ้ หรือ dj สุหฤท ได้มาอ่าน ผมชื่นชมพี่ ๆ นะครับ
และพร้อมช่วยด้วย ผมรักเมืองน่านมากเช่นกัน พร้อมพา นศ.มช. เป็นกำลังหลักเลยครับ
ผมติดต่อพี่ไปทางข้อความแล้วด้วยนะครับ)
อ.แชมป์ ไพรัช พิบูลย์รุ่งโรจน์ เศรษฐศาสตร์ มช.