Skip to content

Posts from the ‘Supply Chain Management’ Category

Tourism Supply Chains Framework


The first thing I did when I started my PhD research is to review a literature to define ‘Tourism Supply Chains’. Then I presented such a work in a PhD Network Conference “EXPLORING TOURISM III: ISSUES IN PHD RESEARCH” at University of Nottingham, UK in 2009

กรอบแนวคิดการวิจัยโซ่อุปทานการท่องเที่ยว

สิ่งแรกที่ผมทำในการทำงานวิจัยปริญญาเอกคือการทบทวนงานวิจัยที่ผ่านมา หรือที่เรียกกันว่า Literature Review และได้เสนอกรอบการทำงานวิจัยโซ่อุปทานการท่องเที่ยว โดยงานชิ้นนี้ได้ไปนำเสนอใน PhD Network Conference “EXPLORING TOURISM III: ISSUES IN PHD RESEARCH” ณ University of Nottingham, UK ในปี 2009

Highlights
1. สรุปงานวิจัยโซ่อุปทานการท่องเที่ยวในอดีต
2. แผนผังโซ่อุปทานการท่องเที่ยวครบวงจร
3. เสนอแนวทางการวิจัยด้านโซ่อุปทานการท่องเที่ยว

Download: PDF 

การสัมมนา เรื่อง”อาหารไทยไปญี่ปุ่น…ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”


อย่างที่เราทราบกันดีว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารหลักของโลก อีกทั้งรัฐบาลหลายต่อหลายชุดต่างก็มียุทธศาตร์ที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก

โดยหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ไทยส่งออกอาหารก็คือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ทว่าการที่จะประสบความสำเร็จในการนำพาอาหารไทยไปญี่ปุ่นนั้นจะไม่เป็นเรื่องที่ยากเลยสำหรับผู้ประกอบการไทย หากว่าเข้าใจระบบโซ่อุปทาน

วันนี้ผมจึงอยากขอประชาสัมพันธ์การสัมมนาที่เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยคุณภาพโดยทีมของ รศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ (ม.ธรรมศาสตร์) และ รศ.ดร.อภิชาต โสภาแดง (ม.เชียงใหม่) ในหัวข้อเรื่อง

“อาหารไทยไปญี่ปุ่น…ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”

ในวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2554
เวลา 08.30-13.00 น. ณ ห้อง Beta 1-2 ชั้น 2 โรงแรม Pullman กรุงเทพฯ

08.30-09.00น. ลงทะเบียน

09.00-09.15น. พิธีเปิดการเสวนากล่าวเปิดโดย ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

09.15-09.30น. บรรยายแนะนําโครงการการปรับปรุงการเข้าถึงของสินค้าไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นด้วย การบูรณาการกับห่วงโซ่อุปทานของญี่ปุ่น โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รุธิร์ พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการ

09.30-10.30น. บรรยายพิเศษ “Thai Foods – The endless demand (อาหารไทย – ความ ต้องการที่ไม่สิ้นสุด)” โดย Nichirei Group

10.30-11.45น.  บรรยายพิเศษ “Thai Foods – The endless Potential. But do we really know? (อาหารไทย – ศักยภาพที่ไม่สิ้นสุด แต่เรารู้หรือเปล่า?)” โดย JETRO เสวนา “อาหารไทยไปญี่ปุ่น …ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”

โดย
รองศาสตราจารย์ ดร.รุธิร์ พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการ

รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชาต โสภาแดง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิจัย

คุณไพบูลย์ พลสุวรรณา กรรมการบริหาร บริษัท ธารสมุทรฟู้ด จํากัด
ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์/กรรมการ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย

คุณอรุณ บริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัพพลายเชน บิซ จํากัด
บรรณาธิการอํานวยการ นิติยสาร Logistics Thailand
และเป็นผู้ดําเนินรายการ

11.45-12.00น. ตอบข้อซักถามและสรุปผลการเสวนา

12.00-13.00น. รับประทานอาหารเที่ยง

*หมายเหตุ อาหารว่างเสิร์ฟระหว่างการเสวนา

ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม และแบบตอบรับ สามารถติดต่อได้ที่
คุณศิริรัตน์ อยู่นาค โทร. 081-7547004 โทรสาร 0-2805-1117

Download เอกสารแนบ

1. หนังสือเชิญ และ กำหนดการ

2. แบบตอบรับ

Flawless Tourism Supply Chains


When I was thinking about my research on tourism supply chains (TSC), there is a concept of seamless supply chain that came into my mind.

It was the sunny day in Cardiff. I was considering what the best TSC is.

(1) Should it focus on the customers that are the tourists? If so, we have to maximise tourists? satisfaction.

Or

(2) Should it focus on the operational cost? Then, we need to minimise the cost of tourism operations.

Or

(3) Could we do the (1) and (2) simultaneously?

The option (3) seems to be good if we could so. Then, let?s assume that we aim to serve the most happiness to the tourists with the lowest cost possible.

Now we may consider the tourists? satisfaction. At this point, I would call it the ?seamless trip?.

Think about your last trip! What we want in our trip is that everything is like what we plan.

Therefore, the seamless trip refers to the smooth travelling.

No waiting, no flight cancel or delay, fast check-in process at the accommodation, etc. To achieve the above, collaboration between tourism service providers is vital. Hotels, airlines, restaurants should not have an arm-length relationships.

In order to ensure that everything in the plan will be available, supply management is very important. Hotels need to have an appropriate ordering policy to avoid the backlog. Airlines also need to have the effective operations to avoid the delay and cancellation of the flight.

However, achieving the tourists? satisfaction is costly. So it?s a dilemma in TSC.

Tourists? satisfaction vs. Cost of operations

Here comes to the heart of supply chain management.

We MUST know what our customers want! whether it is  service quality or Cheap price (cost effective)? Then, we can make the decision whether to maximise service level or to minimise the cost.

Easy example: Five-star hotels always aim for the best service. Even though the cost of operating this service is very expensive but their customers are willing to pay. On the other hand, budget guesthouses may not need to provide the state-of-the-art service since their customers rather aim for the low price. Nevertheless, both five-star hotels and budget guesthouse MUST keep their promise.

Source: Revised from a previous version in TourismLogistics.com on 11.08.2009

The Ryan Air CEO – Kell Ryan


The last, but by no mean the least, keynote in the EurOMA2011 was the one that keep me in the conference closing ceremony.

I must confess that I wasn’t jotting down his speech that much thanks to his outstanding charisma.

However, what I could take away from his keynote were two things, how to turn your business around and how to turn the attention of the audience especially in such a large scale.

The former was so obvious. As we have learnt that Ryan is a Low Cost Airline (LCA) or No-Frills Airline but they are not the pioneer. They was first launched as a Full-service airline in Ireland and almost gone down due to a fierce competition in the aviation industry that offer them the £20M in red. However, they took the LCA business model from the South West Airlines and successfully adapted in Europe. Then Ryan Air got a profit of £125,000 for the first time.

Though it looks too simple, the way they had transformed from to an LCA, it was to do with the decision making & decision maker literally. Here are what Ryan is all about.

  • Cost reduction in every possible area by changing habits of all staffs. This will affect all decision makings e.g., airport selection, process design and routing strategy.
  • Operations champions: reduce turnaround time, maximise the use of the cabin/ seats.
  • Price competitive esp. with their main rival, EasyJet. Revenue pricing is one of the key.

Apart from the tough LCA sector offered by EasyJet, there are several external threats in the aviation industries that RyanAir is facing which are;

  • Fuel price
  • Tax esp. Air Passenger Duty (APD aka. green tax)
  • Terrorism

In the very last part of his keynote, he strongly critique the APD introduced in the Brown’s administration as the major threat of the aviation industry. He further compared to the similar tax employed in the other countries and other sectors that he claimed that have more CO2 emission.

What can Thai LCA can learn from RyanAir probably is the implementation of the business model. LCA is not just a brand, operations strategy of the LCA firms need to be strictly implemented and never loose the focus on cost reduction. As Kell Ryan mentioned in the beginning of his keynote.

” If you want to fly, Come to RyanAir. If you want to dine, just go to the others”

การจัดการโลจิสติกส์ สำหรับการท่องเที่ยว: อะไร ทำไม และอย่างไร


ไพรัช พิบูลย์รุ่งโรจน์
20 พฤศจิกายน 2552

เวลาผมนำเสนองานวิทยานิพนธ์ทีไร จะต้องมีคำถามจาก อาจารย์และนักวิชาการทั้งสายโลจิสติกส์และสายท่องเที่ยวว่า
“ทำไมท่องเที่ยวต้องสนใจโลจิสติกส์?” หรือ “ท่องเที่ยวของเชียงใหม่มีปัญหาโลจิสติกส์จริงเหรอ?”

จริงๆ แล้วงานวิจัยก็มาจากปัญหาที่เรายังตอบไม่ได้ จึงต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบเพื่อหาคำตอบที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามหลายๆ คำถาม ก็ไม่ต้องทำวิจัย เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางไหน?  หรือ นักท่องเที่ยวที่รวยจะใช้จ่ายเงินมากกว่าคนที่มีรายได้น้อยกว่า (โดยเฉลี่ย) หรือไม่ เพราะทั้งสองคำถามต่างก็รู้คำตอบกันอยู่แล้ว

ในกรณีของโลจิสติกส์นั้นเป็นทีรู้กันว่าสำคัญต่อการผลิตอย่างมากเนื่องจากมีต้นทุนหลายๆ อย่างเช่น การขนส่ง การจัดเก็บสินค้าคงคลัง การสั่งซื้อ ฯลฯ ที่สามารถลดลงได้กว่าครึ่ง เพียงแค่มีการจัดการโลจิสติกส์ที่ดี อันนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ

สำหรับธุรกิจค้าปลีกโลจิสติกส์ก็สำคัญมาก นอกเหนือไปจากต้นทุนทั้งหลายที่คล้ายๆ กับการผลิตแล้ว ยังมี ต้นทุนที่เรียกว่าต้นทุนที่เกิดจากการที่ “ของขาด” หรือ “ของเหลือ”

ของขาด คือ ลูกค้ามาที่ร้านแล้วไม่เจอของที่อยากได้ หรือ ไม่พอที่ต้องการ

ของเหลือคือ ในร้านเรามีของที่ค้างอยู่ที่ชั้นเยอะ ขายไม่ออกสักที

ของขาด ทำให้เสียรายได้ที่ควรจะได้ในระยะสั้น ในระยะยาวก็อาจเสียลูกค้าได้ เนื่องจาก ลูกค้าหนีไปร้านอื่นที่มีของแทน

ของเหลือ ทำให้เสียรายได้เนื่องจาก แทนที่จะเอามาวางของที่ขายได้แทน หรือ ของที่ขายไม่ออกเน่าเสีย หรือตกยุค กลายเป็นต้นทุนจมไป

ระะบบโลจิสติกส์ที่ดีจะสามารถกำหนดได้ว่าสินค้าอะไรบ้างที่ควาจะมาวางบนชั้น เมื่อไหร่ เป็นจำนวนเท่าใด และ ขายในเวลาไหน ควรลดราคาเท่าไหร่เมื่อใด และควรจะสั่งสินค้ามาทดทนเท่าไหร่ อย่างไร เมื่อใด ให้ส่งมาทางไหน ส่งมาจากไหน ส่งมาจากใคร ส่งมาแล้วให้ไปเก็บไว้ก่อนหรือไม่ เก็บไว้ที่ไหน เท่าไหร่ อย่างไร

… แล้วโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวหล่ะ?

สำหรับการท่องเที่ยว นั้น ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายตัวสินค้าเท่านั้นแต่ว่ามีการเคลื่อนย้ายลูกค้า (ผู้บริโภค หรือ นักท่องเที่ยว) ด้วย ดังนั้นโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวนั้นมีปัญหาทุกอย่างที่เกิดใน การผลิต และ การค้าปลีก แถมยังปัญหาเกี่ยวกับการบริการเข้ามาด้วย นี่คือฝั่งผู้ให้บริการอย่างเดียวเท่านั้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ นักวิชาการโลจิสติกส์ให้ความสำคัญกับภาคบริการมากขึ้น

อีกฝั่งก็คือการเคลื่อนย้ายลูกค้า (ซึ่งกว้างกว่าการขนส่งผู้โดยสาร) ที่คาร์ดิฟสนใจเรื่องโลจิสติกส์ของโรงพยาบาลอย่างมาก ที่มาคือมีนักวิจัยไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลแล้วหงุดหงิดใจกับระบบของโรงพยาบาล

จนกลายเป็นโครงการวิจัยใหญ่ของประเทศไปเลย ยกตัวอย่าง เช่น งานของกลุ่มวิจัยเรื่อง Lean (มาจากระบบของ Toyota) ที่คาร์ดิฟศึกษาการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยใน รพ.

อย่างไรก็ตามสำหรับการท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เดินไปเดินมาในโรงแรม (หากเทียบกับ ผู้ป่วย ใน โรงพยาบาล) หรือ เดินในงานพืชสวนโลก แต่ว่าตั้งแต่ออกจากบ้านก็ผ่านการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ความต้องการก็ไม่แน่นอน

คนป่วยที่คาร์ดิฟหากฉุกเฉินโทรเรียกรถฉุกเฉินของรพ. แล้วก็รอแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่มาตรวจแล้วก็ทำตามขั้นตอนมาตรฐานผู้ป่วยและญาติก็เชื่อฟังด้วยความเต็มใจ บอกให้ทำอะไรก็ทำ (ถ้าอยากจะรอด)

ทว่าการท่องเที่ยวไม่ใช่แบบนั้น… เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นงานบริการที่เรื่องมากที่สุด บริการหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวแบบไหนก็เรื่องมากหมด จะนอนโรงแรมห้าดาวอย่าง “ดาราเทวี” หรือจะนอนวัดก็เรื่องมากทั้งนั้น… แต่เรืองมากคนละแบบ ต้องการคนละอย่าง … เรื่องนี้คนโรงแรมรู้ดี ไม่เท่านั้น คนป่วย มีประวัติการรักษา แพทย์ พยาบาลดูประวัติแล้วก็วินิจฉัยได้เลย

อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวไม่ใช่แบบนั้นไปซะหมด ยิ่งปัจจุบัน เราพบว่านักท่องเที่ยวคนเดียวกันมีหลายหน้า หมายถึงคนๆ เดียวท่องเที่ยวหลายแบบ แล้วแต่ปัจจัยหลายประการ

ยกตัวอย่างใกล้ตัว ผมเอง เวลาที่อยู่กับ อ.มิ่งสรรพ์ ไปประชุมวิชาการ พักโรงแรมที่ค่อนข้างดี แต่ตอนนี้มาเรียนเองแล้วไม่มีทุนวิจัยสนับสนุนมากมาย

ไปประชุมคราวนี้ก็ต้องนอนหอ นศ. เก่าๆ ห้องน้ำรวม แต่ผมคนเดิมอีก เดือนหน้าไปเสนองานที่ภูเก็ตสองคืนแรกพักสามดาว (เบิกได้) อีกสามคืนอยู่ต่อเองเพื่ิอทำงานวิจัยก็เปลี่ยนไปอยู่สองดาว…

ดูเหมือนว่าเรื่องเงินสำคัญ…

มาดูอีก… ผมคนเดิม กลับมาทำวิจัยคราวนี้เบิกที่คาร์ดิฟเรื่องเดินทางได้เต็มที่ ขาที่ต่อเครื่องมาจากสุวรรณภูมิก็การบินไทย ไปภูเก็ตก็การบินไทยจาก เชียงใหม่ กรุงเทพ แล้วก็ภูเก็ต แต่ขาจากภูเก็ตมาเชียงใหม่ใช้ Air Asia เพราะมีเที่ยวตรง (ไม่เกี่ยวกับราคาเลย เกี่ยวกับลักษณะของบริการที่เหมาะสม) เดี๋ยวถ้าไปดูซีเกมส์ที่เวียงจันทน์ก็อาจจะไปกับการบินลาวก็ได้ เพราะออกจากเชียงใหม่ได้แวะหลวงพระบางก่อน แล้วต่อไปวังเวียงแบบรถคิวถูกๆ เพราะสนุกดี ให้เพื่อนมารับไปเวียงจันทน์ ต่อรถไฟเองไปลงหนองคาย อุดรฯ แล้วก็เชียงใหม่ แผนสามารถเปลี่ยนได้เรื่อยๆ

การท่องเที่ยวนั้นเรื่องมาก และ ลูกค้าเอาแต่ใจสูง ทีนี้ ทำไมโลจิสติกส์สำคัญในการท่องเที่ยวในระยะสั้นเอกชนสามารถลดต้นทุนได้ ทั้งจากการที่สามารถจัดการการเตรียมของไว้บริการได้เพียงพอในราคาี่ถูกที่สุด เนื้อหมูไม่ขาด เบียร์มีพร้อม สาวเชียร์เบียร์มาครบ แก้ว จาน ชาม สะอาด เรียบร้อยมีพร้อมใช้งาน และที่สำคัญของพวกนี้ไม่มีอะไรที่มีอยู่เกินความจำเป็น

ในระยะยาว ผู้ให้บริการแก่ลูกค้าได้ตรงตามความต้องการก็จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า มาใช้บริการเรื่อยๆ ไม่ใช่ ตีหัวเข้าบ้าน เน้นเอาถูกแต่คุณภาพไม่ดีพอ หรือ ดันไปให้อะไรที่ลูกค้าไม่ต้องการแต่ละเลยสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ เช่น ลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่นมาอยู่หลังวัยเกษียณแต่ห้องน้ำไม่มีอ่าง แต่ดันมีมุมทำงานที่มีอุปกรณ์ครบครัน

อีกตัวอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องกลยุทธ์ราคากับคุณภาพที่ผมชอบพูดคือ ปรากฎการณ์ปาท่องโก๋ … (ถ้าอยากฟังต่อกดที่ Link เลยครับ)

ปรับปรุงจาก TourismLogistics.com
บทความ ทำไมต้องสนใจการจัดการโลจิสติกส์ในการท่องเที่ยว?