Skip to content

Posts tagged ‘policy’

ประลองนโยบายโลจิสติกส์ ประชาธิปัตย์ vs เพื่อไทย


พรรคประชาธิปัตย์

นโยบายในหมวด “ประเทศต้องเดินหน้า”

รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เชื่อมคุณหมิง ภาคอีสานสู่ภาคใต้เชื่อมต่อไปยังมาเลเซียเพื่อพัฒนาการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว

เชื่อมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้

ระยะแรก ลงทุน 150,000 ล้านบาท หนองคาย-กทม. เริ่มให้บริการ ปี 2559
ระยะสอง ลงทุน 230,000 ล้านบาท กทม.-ปาดังเบซาร์ เริ่มให้บริการ ปี 2563

เดินทางสะดวกสบายและปลอดภัย
ลดเวลาเดินทางกว่าครึ่ง
เลิกทนกับความแออัด ล่าช้า เลิกเสี่ยงกับอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล

สร้างรายได้ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น
เพิ่มการจ้างงานที่ต่อเนื่องกับการลงทุนก่อสร้าง
นำสินค้าเกษตรไทยสดใหม่ สู่ตลาดจีน แหลมฉบัง มาเลเซีย สิงคโปร์ได้รวดเร็ว
เปิดตลาดใหม่ ให้ธุรกิจและSME ค้าขายสะดวกขึ้น
ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน และที่ดินตลอดเส้นทาง

สร้างความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถให้เศรษฐกิจไทย
สร้างความได้เปรียบให้ไทย จากการเป็นศูนย์กลางอาเซียน
เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดต้นทุน ลดเวลา ลดพลังงาน ลดมลภาวะ

ที่มา: http://campaign.democrat.or.th/policies/thailand/rails

อีกนโยบายเป็นเรื่องการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าซึ่งอยู่ในหมวด กรุงเทพต้องเดินหน้า
มีรายละเอียดดังนี้

เดินทางสะดวก ด้วยระบบขนส่งมวลชนที่สะอาด รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง

  • รถไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ กทม. และปริมณฑล
  • รถไฟฟ้า 12 สาย ระยะทางรวม 509 กม. สร้างแล้ว 75 กม.
  • เชื่อม กทม.-ปริมณฑล (นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ) โดย รถไฟฟ้า 166 กม. ภายใน 5 ปี
  • เพิ่มการเชื่อมต่อสนามบินดอนเมือง ให้เกิดความสะดวก เพื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และฟื้นเศรษฐกิจโดยรอบ
  • พัฒนาสถานีบางซื่อและสถานีมักกะสันเป็นศูนย์คมนาคม เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง
  • รถเมล์ สะอาด รวดเร็ว ปลอดภัย
  • บริการฟรีนักเรียน-คนพิการ-ผู้สูงอายุ
  • ปรับเส้นทางเดินรถเชื่อมระบบรางและทางน้ำ
  • ตั๋วร่วม รถไฟ-รถเมล์-เรือ เดินทางได้ทุกระบบขนส่งมวลชน

ที่มา: http://campaign.democrat.or.th/policies/bangkok/transportation

พรรคเพื่อไทย

วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2020 ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์

(เป้าหมายการพัฒนาสู่ความสำเร็จ)

6. การคมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯ จะสะดวกยิ่งขึ้นเพราะรถไฟฟ้าจะเสร็จทั้ง 10 สาย มีการสร้างมืองใหม่ และที่อยู่อาศัยออกไปตามเส้นทางรถไฟฟ้า

7. การคมนาคมขนส่งระบบราง จะครอบคลุมทั้งประเทศ มีทั้งรถไปความเร็วสูงเชื่อมเมืองสำคัญ รถไฟรางคู่ และระบบขนส่งเชื่อมโยงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะทำให้ค่าขนส่งสินค้า (logistic Cost) ของไทยลดลงจากปัจจุบัน 25%

8. ประเทศไทยจะเป้นประเทศอันดับต้นๆ ของเอเชีย ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) จะทำให้เด็กไทยเข้าถึงข้อมูลทั่วโลกได้ พร้อมทั้งระบบการเรียนการสอนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ทุกตำบลจะเป็นตำบลดิจิตอล

(อนาคตประเทศไทย)

15. ไทยจะเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชีย จะมีนักท่องเที่ยวเป็น 30 ล้านคนต่อปี สนามบินทั้งดอนเมือง และอู่ตะเภา จะถูกนำมาใช้เป้นสนามบินสากล

16. สินค้าไทยจะเป็นสินค้าที่ทำรายได้จากการสร้างมูลค่า (value Creation) มากกว่าการขายวัตถุดิบหรือจ้างทำของ

ที่มา: http://www.ptp.or.th/lettter.htm

เมื่อลองดูใน website ของพรรคแล้ว นโยบายโลจิสติกส์ น่าจะอยู่ในหมวด นโยบายด้านคมนาคม
ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

นโยบายคมนาคม

การคมนาคมเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ การคมนาคมขนส่งสินค้า หรือผู้คน จำเป็นที่จะต้องเข้าถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทย และจะต้องเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว รวมไปถึงการพัฒนาการคมนาคมเฉพาะส่วนที่จะช่วยส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจ มีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว

พรรคจะดำเนินการพัฒนาระบบคมนาคมในทุกทางให้สะดวกและทั่วถึงแก่ทุกพื้นที่ ปรับปรุงระบบคมนาคมเดิมและสร้างระบบคมนาคมใหม่ เพื่อให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในด้านเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศ การดำเนินนโยบายโครงการระบบขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่ และให้สามารถเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นการเพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้า และรองรับการท่องเที่ยวในอนาคต

ดำเนินนโยบายการจัดสร้างรถไฟฟ้า ให้ครบทุกเส้นทางครบทั้งระบบโดยเร็วที่สุด การคมนาคมขนส่งทุกระบบต้องเชื่อมถึงกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทางบก น้ำ หรือทางอากาศ พัฒนาสนามบินหลัก และสนามบินย่อยในแต่ละภูมิภาค ให้สามารถรองรับระบบการคมนาคมขนส่ง ทั้งสินค้าและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาให้ประเทศเป็นศูนย์กลางในการคมนาคมติดต่อของภูมิภาค ตลอดจนดำเนินการพัฒนาศักยภาพการขนส่งระหว่างภาคสมุทร รวมถึงการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ให้มีประสิทธิภาพและสร้างระบบคลังสินค้าประเภทต่างๆ ให้เพิ่มมากขึ้น โดยระบบลอจิสติกส์จะถูกปรับโครงสร้างทั้งหมดให้เป็น Multi Model Transportation เชื่อมเป็นโครงข่าย ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสินค้า

ที่มา: http://www.ptp.or.th/policy/policy16.aspx

ประชันนโยบายการท่องเที่ยว เพื่อไทย vs ประชาธิปัตย์


พรรคเพื่อไทย

พบในนโยบายเศรษฐกิจ ดังนี้

” การบริหารเศรษฐกิจระดับจุลภาค พรรคมีนโยบายให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสามารถ ในการแข่งขันภาคเศรษฐกิจที่ไทยได้เปรียบเชิงการแข่งขันอยู่แล้ว เช่น การเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาหรือการสร้างมูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมการเกษตร การสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์อาหาร สมุนไพร การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานจากผลผลิตการเกษตร พรรคมีนโยบายการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมบริการ เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ศูนย์บริการทางการแพทย์และพยาบาล อุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพและสปา ”

ที่มา:

ผมลองค้นข้อมูลใน Google โดยใช้คำว่า นโยบาย+ท่องเที่ยว+เพื่อไทย ได้ข้อมูลน่าสนใจดังนี้ครับ

“นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ฝั่งอันดามัน เปิดเผยว่า นโยบายที่เกี่ยวข้องกับ จ.ภูเก็ต และจังหวัดฝั่งอันดามัน โดยเน้นการพัฒนาให้ภูเก็ต เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยการยกเว้นภาษี ซึ่งจะไม่เฉพาะในส่วนของดิวตี้ฟรีที่สนามบินเท่านั้น แต่จะมีการจัดทำเป็นร้านค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว กระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการศึกษารายละเอียดไว้แล้ว และเชื่อว่านโยบายนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจต่างๆ

นอกจากนี้ นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยจะเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ทั้งการจัดหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค โดยจะทำน้ำระบบท่อจากเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และจังหวัดฝั่งอันดามัน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยคิดไว้ แต่เมื่อถูกปฎิวัติก็สะดุดไป รัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่สนใจ สมัยนั้นตนเป็นประธานบอร์ดการประปาภูมิภาค ก็ได้ศึกษาไว้ โดยใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยได้มาเป็นรัฐบาลก็จะรีบนำมาปัดฝุ่นเร่งดำเนินการต่อไปทันที”

ที่มา: ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า — พฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2554 18:55:30 น.

ที่พรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ถึงนโยบายด้านการท่องเที่ยวของพรรคเพื่อไทย ว่า นโยบายด้านการท่องเที่ยวที่พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอเป็นนโยบายใหม่นั้น เน้นคอนเซ็ปต์ “ท่องถิ่นแดนไทยไปได้ทุกมุมยิ้มสยาม” คือการส่งเสริมการบริการด้วยรอยยิ้ม ที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาจากวัฒนธรรมของคนไทย ส่งเสริมการหารายได้เข้าประเทศด้านการท่องเที่ยวและการบริการ พัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ทูตวัฒนธรรมนำเที่ยวไทย โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวใหม่ แบ่งตามภูมิภาคดังนี้ ภาคเหนือโรแมนติคล้านนาแห่งความฝัน ภาคกลาง ฟูเฟื่องสุวรรณภูมิ ภาคตะวันออก เสน่ห์ทะเลไทย ภาคตะวันตก ท่องขุนเขาลำเนาไพร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เถิดเทิงอีสาน ภาคใต้ คาบสมุทรแห่งความฝันชายฝั่งทะเลอ่าวไทย และกรุงเทพมหานครซิตี้ออฟแองเจิ้ล รวมไปถึงโครงการเที่ยวไทย อยู่นานเหมือนบ้านที่สอง และการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกด้วย

ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293708053&grpid=03&catid=&subcatid=

พรรคประชาธิปัตย์

พลิกโฉมเมืองท่องเที่ยวตลอดชายฝั่งทะเลภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ
เพื่อให้ประเทศ ไทยเป็น “มนตร์เสน่ห์แห่งเอเชีย” (The Rhythm of Asia)
ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาทต่อปี

  1. ทุ่มงบประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศให้สมบูรณ์ ด้วยสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานกว่า 60 จังหวัด
  2. รอยยิ้มไทย เชื่อมท่องเที่ยวโลก : อบรมบุคลากร-ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพื้นที่กว่า 150,000 คน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมืออาชีพ ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี
  3. เชื่อมโยงการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์พื้นบ้านที่โดดเด่นในแต่ละจังหวัด เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่
  4. คุณภาพนักท่องเที่ยว เพิ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพให้มากขึ้น เช่น กลุ่มนิเวศน์ กลุ่มประชุม กลุ่มกีฬา กลุ่มสุขภาพ กลุ่มวัฒนธรรม / ประวัติศาสตร์

กลุ่มมหัศจรรย์สองสมุทร
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 2 ฝั่ง อันดามัน-อ่าวไทย พร้อมสิ่งรองรับระดับมาตรฐานโลก เปิดประตูท่องเที่ยวไทยเชื่อมโลก

กลุ่มอารยธรรมอีสาน – ลุ่มน้ำโขง
พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสายอารยธรรมที่เชื่อมต่อวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงอย่างรังสรร

กลุ่มอารยธรรมล้านนา
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจ อาเซียน พม่า-จีน

กลุ่มวิถีลุ่มน้ำเจ้าพระยา
สืบสานและพัฒนาวิถีไทยให้โดดเด่น “เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ”ที่ร่มเย็นเชื่อมต่อมรดกโลกอยุธยา

กลุ่มท่องเที่ยวชายฝั่งตะวันออก
ยกระดับมาตรฐานสาธารณูปโภค แหล่งท่องเที่ยวสู่สากล การให้บริการด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ

ทีมา: http://campaign.democrat.or.th/policies/thailand/travel

%d bloggers like this: