Skip to content

Archive for

ช่องว่างทางการศึกษาในสหราชอาณาจักร


Gap is everywhere, even in the UK

จากการศึกษาของสหภาพมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (University and College Union) หรือ UCU (มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นอาจารย์) ได้พบช่องว่างทางการศึกษาของประชากรในสหราชอาณาจักร (UK) โดยสามารถแบ่งอกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่มีการศึกษาดีนั้นอาศัยอยู่ในลอนดอนและทางใต้ของ UK เป็นส่วนใหญ่ (พื้นที่สีอ่อนในแผนที่)  โดยพื้นที่ที่มีสัดส่วนของผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติทางการศึกษาน้อยที่สุด (หรือมีส่วนสัดส่วนของผู้ที่มีการศึกษามากที่สุด) 5  อันดับแรกคือ

Constituency Percentage with no qualifications Rank
Brent North 1.9 1
Romsey and Southampton North 2.3 2
Wimbledon 2.6 3
Winchester 2.6 3
Leeds North West 2.7 5

ส่วนพื้นที่ที่มีสัดส่วนผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติทางการศึกษามากที่สุด 5 อันดับได้แก่

Constituency Percentage with no qualifications Rank
Glasgow North East 35.3 1
Birmingham, Hodge Hill 33.3 2
Bradford West 29.0 3
Glasgow East 29.0 3
Derby South 26.1 5

พื้นที่ดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ทางตอนกลางและทางตอนเหนือของประเทศ

ทาง UCU ได้แสดงความกังวลถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาดังกล่าวว่าจะเป็นชนวนปัญหาทางสังคมได้ในอนาคต ทั้งการผลิตแรงงานที่มีฝีมือของประเทศ รวมถึงสภาพแวลดล้อมของพื้นที่ที่มีระดับการศึกษาที่ค่อนข้างต่ำซึ่งมีระดับของอาชญากรรมค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ยังได้วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ยอมให้มีการขึ้นค่าเรียนจาก £3,000 เป็น £9,000 ได้นั้นว่าเป็นการทำให้ช่องว่างดังกล่าวแย่ลงไปอีก

ทาง Department of Education ได้ออกมาชี้แจงว่าแนวทางแก้ไขนั้นจะได้มีการเพิ่มจำนวนอาจารย์และทุนการศึกษาให้สำหรับนักเรียนที่ยากจนเพื่อลดช่องว่างดังกล่าว

Gap is everywhere?

ข่าวนี้อาจจะเป็นหลักฐานหนึ่งว่า ในโลกนี้ก็มีความเลื่อมล้ำอยู่ทุกแห่งไม่เว้นแต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหราชอาณาจักร ถ้าว่างๆ ผมได้ลองหาข้อมูลขอประเทศไทยแล้วพบแต่เพียงจำนวนประชากรที่อยู่ในวัยเรียน แต่ยังไม่พบสัดส่วนทางการศึกษาของประชากรทั้งหมด คิดว่าน่าจะมีอยู่ในการสำรวจสำมะโนประชากร หากใครมีข้อมูลอย่างจะแบ่งปันก็จะยินดีมากเลยครับ

ข้อสังเกตุหนึ่งสำหรับสถิติของ UK คือระบบสวัสดิการที่รัฐบาลเคยมีให้ในระดับที่สูงมาก เช่น คนที่ไม่มีงานทำก็มีมีเงินเลี้ยงดู ค่ารักษาพยาบาล ทำให้หลายๆ คนไม่อยากหางานทำและอยู่ด้วยเงินสวัสดิการนี้ไปวันๆ ทำให้รัฐบาลปัจจุบัน ต้องให้ความสำคัญกำการตรวจสอบว่าผู้ว่างงานที่สมควรจะได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวนั้นต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความพยายามที่จะหางานแล้วจริงๆ

ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการที่จะเป็นรัฐสวัสดิการที่มีประสิทธิภาพนั้น ไม่่เรื่องง่ายๆ ที่รัฐบาลลด แลก แจก แถม อย่างเดียว แต่จะต้องมีระบบการจัดการและคัดกรองผู้ที่เหมาะสมจะได้รับสวัสดิการในระดับต่างๆ ที่ดีอีกด้วย มิฉะนั้นปัญหาต่างๆ ทั้งทางสังคมและทางเศรษฐกิจอาจจะร้ายแรงจนก่อให้เกิดวิกฤตได้

ที่มาข้อมูล BBC และ UCU

Testing a new Mac OS Lion


Just out now.
I will install and review it here soon.

20110721-114844.jpg

การสัมมนา เรื่อง”อาหารไทยไปญี่ปุ่น…ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”


อย่างที่เราทราบกันดีว่า ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารหลักของโลก อีกทั้งรัฐบาลหลายต่อหลายชุดต่างก็มียุทธศาตร์ที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก

โดยหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่ไทยส่งออกอาหารก็คือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ทว่าการที่จะประสบความสำเร็จในการนำพาอาหารไทยไปญี่ปุ่นนั้นจะไม่เป็นเรื่องที่ยากเลยสำหรับผู้ประกอบการไทย หากว่าเข้าใจระบบโซ่อุปทาน

วันนี้ผมจึงอยากขอประชาสัมพันธ์การสัมมนาที่เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยคุณภาพโดยทีมของ รศ.ดร.รุธิร์ พนมยงค์ (ม.ธรรมศาสตร์) และ รศ.ดร.อภิชาต โสภาแดง (ม.เชียงใหม่) ในหัวข้อเรื่อง

“อาหารไทยไปญี่ปุ่น…ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”

ในวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2554
เวลา 08.30-13.00 น. ณ ห้อง Beta 1-2 ชั้น 2 โรงแรม Pullman กรุงเทพฯ

08.30-09.00น. ลงทะเบียน

09.00-09.15น. พิธีเปิดการเสวนากล่าวเปิดโดย ผู้อํานวยการสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

09.15-09.30น. บรรยายแนะนําโครงการการปรับปรุงการเข้าถึงของสินค้าไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นด้วย การบูรณาการกับห่วงโซ่อุปทานของญี่ปุ่น โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รุธิร์ พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการ

09.30-10.30น. บรรยายพิเศษ “Thai Foods – The endless demand (อาหารไทย – ความ ต้องการที่ไม่สิ้นสุด)” โดย Nichirei Group

10.30-11.45น.  บรรยายพิเศษ “Thai Foods – The endless Potential. But do we really know? (อาหารไทย – ศักยภาพที่ไม่สิ้นสุด แต่เรารู้หรือเปล่า?)” โดย JETRO เสวนา “อาหารไทยไปญี่ปุ่น …ไม่ยาก หากเข้าใจโซ่อุปทาน”

โดย
รองศาสตราจารย์ ดร.รุธิร์ พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการ

รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชาต โสภาแดง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิจัย

คุณไพบูลย์ พลสุวรรณา กรรมการบริหาร บริษัท ธารสมุทรฟู้ด จํากัด
ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์/กรรมการ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย

คุณอรุณ บริรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัพพลายเชน บิซ จํากัด
บรรณาธิการอํานวยการ นิติยสาร Logistics Thailand
และเป็นผู้ดําเนินรายการ

11.45-12.00น. ตอบข้อซักถามและสรุปผลการเสวนา

12.00-13.00น. รับประทานอาหารเที่ยง

*หมายเหตุ อาหารว่างเสิร์ฟระหว่างการเสวนา

ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม และแบบตอบรับ สามารถติดต่อได้ที่
คุณศิริรัตน์ อยู่นาค โทร. 081-7547004 โทรสาร 0-2805-1117

Download เอกสารแนบ

1. หนังสือเชิญ และ กำหนดการ

2. แบบตอบรับ

Flawless Tourism Supply Chains


When I was thinking about my research on tourism supply chains (TSC), there is a concept of seamless supply chain that came into my mind.

It was the sunny day in Cardiff. I was considering what the best TSC is.

(1) Should it focus on the customers that are the tourists? If so, we have to maximise tourists? satisfaction.

Or

(2) Should it focus on the operational cost? Then, we need to minimise the cost of tourism operations.

Or

(3) Could we do the (1) and (2) simultaneously?

The option (3) seems to be good if we could so. Then, let?s assume that we aim to serve the most happiness to the tourists with the lowest cost possible.

Now we may consider the tourists? satisfaction. At this point, I would call it the ?seamless trip?.

Think about your last trip! What we want in our trip is that everything is like what we plan.

Therefore, the seamless trip refers to the smooth travelling.

No waiting, no flight cancel or delay, fast check-in process at the accommodation, etc. To achieve the above, collaboration between tourism service providers is vital. Hotels, airlines, restaurants should not have an arm-length relationships.

In order to ensure that everything in the plan will be available, supply management is very important. Hotels need to have an appropriate ordering policy to avoid the backlog. Airlines also need to have the effective operations to avoid the delay and cancellation of the flight.

However, achieving the tourists? satisfaction is costly. So it?s a dilemma in TSC.

Tourists? satisfaction vs. Cost of operations

Here comes to the heart of supply chain management.

We MUST know what our customers want! whether it is  service quality or Cheap price (cost effective)? Then, we can make the decision whether to maximise service level or to minimise the cost.

Easy example: Five-star hotels always aim for the best service. Even though the cost of operating this service is very expensive but their customers are willing to pay. On the other hand, budget guesthouses may not need to provide the state-of-the-art service since their customers rather aim for the low price. Nevertheless, both five-star hotels and budget guesthouse MUST keep their promise.

Source: Revised from a previous version in TourismLogistics.com on 11.08.2009

My EurOMA2011 Paper



After I have released my presentation slide, now it’s time for the full paper.

This paper was the result from my works in the past few years. It actually covers most of the theoretical foundation of my PhD thesis. The contribution which I proudly presented there was the collective impacts of supply chain collaborations on inter-firm outcomes e.g., relationship satisfaction and firm’s performance. Moreover, the methodology was another part that prove me right on the design of my research proposal at the very beginning of my PhD, which I presented in the EDAMBA 2009 in France. Now you may download the paper here.

View this document on Scribd